อนาคตกฎหมายอสังหาฯ ไทย เมื่อ Blockchain และ AI เปลี่ยนเกมกฎหมาย
Student blog — 06/11/2025
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว กฎหมายอสังหาริมทรัพย์ก็ต้องปรับตัวตามไปด้วย ลองนึกภาพเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Blockchain, AI, หรือแม้แต่แนวคิดอสังหาริมทรัพย์สีเขียว (Green Real Estate) ที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอนาคต
มาดูกันว่าอนาคตของวงการนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง:
Smart Contract & Blockchain หรือ การที่สัญญาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อาจถูกบันทึกและดำเนินการผ่าน Blockchain เพิ่มความปลอดภัย ตรวจสอบได้ และลดความเสี่ยงจากการทุจริต หรือการจัดการและจัดเก็บข้อมูลเอกสารสิทธิ์แบบดิจิทัล ลดการใช้กระดาษ
AI ในการประเมินราคาและวิเคราะห์ตลาด หรือการใช้ปัญญาประดิษฐ์มาช่วยนักกฎหมายและนักลงทุนในการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด ช่วยประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
การใช้ Digital Tax Map คือ แผนที่ภาษีในรูปแบบดิจิทัลที่รวบรวมและแสดงข้อมูลเกี่ยวกับที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือทรัพย์สินอื่น ๆ บนระบบแผนที่ออนไลน์ เพื่อสนับสนุนการจัดเก็บภาษีและการบริหารงานของหน่วยงานท้องถิ่นหรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
โดยหลักแล้วจะมีลักษณะและประโยชน์คือ เป็นฐานข้อมูล GIS (Geographic Information System) ที่ผสมผสานข้อมูลทางแผนที่ (เช่น ขอบเขตแปลงที่ดิน ถนน เขตการปกครอง) เข้ากับข้อมูลด้านภาษี (เช่น เจ้าของทรัพย์สิน ประเภทการใช้ประโยชน์ พื้นที่ ข้อมูลการชำระภาษี) และใช้แทน แผนที่ภาษีแบบกระดาษ ที่เคยใช้ในงานสำรวจและประเมินภาษี โดยปรับให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อให้เข้าถึงและอัปเดตได้ง่าย
ESG (Environmental, Social, and Governance): หลักธรรมาภิบาลทางเลือกใหม่ กำลังเป็นที่ให้ความสำคัญมากขึ้นในภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะต้องคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน ซึ่งจะนำไปสู่การออกกฎหมายหรือระเบียบใหม่ๆ เพื่อกำกับดูแล
กฎหมายเกี่ยวกับการใช้พื้นที่เมือง รวมถึงการวางผังเมืองที่ตอบรับแนวคิดเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และการใช้ประโยชน์ที่ดินผสมผสานมากขึ้น เช่น การนำพื้นที่เชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยมารวมกันในอาคารเดียว
กฎหมายต่างชาติกับการลงทุนควรมีการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความสมดุลและคุ้มครองผลประโยชน์ของคนในประเทศ
การคุ้มครองผู้บริโภค โดยกฎหมายจะเข้มงวดมากขึ้นในการคุ้มครองผู้ซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เช่น กฎหมายควบคุมการโฆษณา การเปิดเผยข้อมูลโครงการอย่างโปร่งใส และการเยียวยาหากเกิดความเสียหาย
ดูไบ: มีเป้าหมายให้ธุรกรรมอสังหาฯ ทั้งหมดทำผ่าน Blockchain ภายในปี 2030
สวีเดน: Lantmäteriet (กรมที่ดินสวีเดน) ทดลองใช้ Blockchain กับ Smart Contract เพื่อโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินภายในไม่กี่วัน แทนที่จะใช้เวลาหลายเดือน
สิงคโปร์: สิงคโปร์ได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่เรียกว่า “Real Estate Digital Broker” ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อช่วยให้การประเมินมูลค่าทรัพย์สินถูกต้องและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ หน่วยงาน URA (Urban Redevelopment Authority) ยังได้ใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในแผนการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
สหราชอาณาจักร: หน่วยงาน Land Registry ของสหราชอาณาจักรได้มีโครงการนำ Blockchain มาทดลองใช้เพื่อบันทึกสัญญาการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยตรง ซึ่งช่วยลดเวลาที่ใช้ในกระบวนการโอนกรรมสิทธิ์และเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการ
สหรัฐอเมริกา: บริษัท PropTech ต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ได้ใช้เทคโนโลยี AI, VR และ AR ในการให้บริการตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำเสนอข้อมูลแบบอินเตอร์แอคทีฟสำหรับการขายและเช่า ตัวอย่างเช่น Zillow และ Redfin ที่ใช้ข้อมูลและ AI ในการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ในขณะเดียวกันก็มีกฎหมายที่มีการปรับปรุงเพื่อรองรับเทคโนโลยีเหล่านี้ อย่างกฎหมายเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้มงวดมากขึ้น
- ที่ปรึกษากฎหมายด้านอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัล: ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่เข้าใจเทคโนโลยี Blockchain, AI และ Smart Contract
- ทนายความด้านสิ่งแวดล้อมอสังหาริมทรัพย์: ผู้ดำเนินคดีหรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์สีเขียว
- นักกฎหมายองค์กรในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์: ผู้ดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบต่างๆ สำหรับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
- ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายในหน่วยงานภาครัฐ: ผู้กำหนดนโยบายและออกกฎระเบียบใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง
เส้นทางสู่ “นักกฎหมายมืออาชีพ” ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC)
น้องๆ คงเห็นแล้วว่า “กฎหมายอสังหาริมทรัพย์” มีความสำคัญและมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นขนาดไหน!
มาดูกันว่าทักษะอะไรที่ต้องเตรียมตัวเพื่อเป็นนักกฎหมายอสังหาริมทรัพย์
ความรู้ที่จำเป็น: กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายที่ดิน กฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎหมายภาษีอากร กฎหมายควบคุมอาคาร กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายความปลอดภัยไซเบอร์
ทักษะเสริม: ภาษาอังกฤษ (สำหรับการทำงานกับนักลงทุนต่างชาติ) เทคโนโลยีดิจิทัล การวิเคราะห์ข้อมูล การเจรจาต่อรอง
กฎหมายอสังหาริมทรัพย์เป็นสาขาที่มีอนาคตสดใสและเต็มไปด้วยโอกาส สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจจะก้าวเข้าสู่โลกของกฎหมาย การเลือกเรียนที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสร้างอาชีพที่มั่นคงและประสบความสำเร็จ
พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงวงการกฎหมายไทยหรือยัง?
📌 หากคุณต้องการเป็นนักกฎหมายที่มีทั้ง “ความรู้ทางกฎหมาย” และ “วิสัยทัศน์เพื่อโลกและสังคม” — เรียนต่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คือทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาด!
📞 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสมัครเรียน ตามรายละเอียดข้างล่าง
คนที่จะสมรสกันจะต้องชินกับคำว่า “หมั้นหมายกันไว้ก่อน” กล่าวคือ ก่อนที่ชายหญิงจะทำการสมรสกันต้องประกอบพิธีหมั้นก่อน
📌ข้อดี
- 🖌️ จบแล้วได้ skill Certificate เฉพาะทาง
- 🖌️ เรียนจบภายใน 3 ปีครึ่ง
- 🖌️ มีสหกิจศึกษา พร้อมฝึกปฏิบัติงาน ก่อนทำงานจริง
- 🖌️ เรียนต่อเนติบัณฑิตยสภาได้
- 🖌️ สอบตั๋วทนายความได้
- 🖌️ เรียนวิชาเฉพาะด้านที่ทันสมัยกับตัวจริง Guru
- 🖌️ ได้รับการรับรองจาก ก.พ. และ อ.ว.
📌สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ระดับบัณฑิตศึกษา
- โทร: 0953675508/02-697-6000
- 📥 สอบถามเพิ่มเติม หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
- 📌 ID Line : 0953675508
- 📌 IG : law_utcc
- 📌Facebook: UtccLawSchool
มาเป็นครอบครัวหอการค้าด้วยกัน
📌สมัครเรียนง่ายได้ 3 ช่องทาง
- สมัครเรียนออนไลน์ Line : @utcccare (อย่าลืม @) https://lin.ee/x53Mxlf
- หรือ https://admissions.utcc.ac.th/ *สมัครแล้วอย่าลืมทักไลน์นะ
- สมัครด้วยตนเองที่ ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย อาคาร 24 (อาคารสัญลักษณ์) ชั้น 2
ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. 📌พิกัดการเดินทาง: https://goo.gl/maps/JEY6UvPL8Qh8NyyM9
สอบถามเพิ่มเติม ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย โทร 02-697-6969