GDPR, PDPA และ CBPR ต่างกันอย่างไร คู่มือกฎหมายการโอนข้อมูลระหว่างประเทศ
Student blog — 25/09/2025

#เรียนนิติศาสตร์ที่ไหนดี #PDPA #โอนข้อมูลข้ามพรมแดน #เรียนกฎหมายยุคใหม่ #คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย #นิติศาสตร์สำหรับคนรุ่นใหม่ #Cross-border
จากบทความที่แล้วที่ได้พูดถึงว่าทำไมประเทศไทยต้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนข้ามพรมแดน วันนี้เรามาต่อกันเลยกับการเปรียบเทียบกลไกในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งไปต่างประเทศของประเทศที่น่าสนใจ ลองดูว่าแต่ละประเทศเค้ามีกลไกในการคุ้มครองอย่างไรบ้าง
ในโลกยุคดิจิทัล ข้อมูลของเรามักถูกส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปยังต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลลูกค้าไว้บนคลาวด์ การใช้บริการจากบริษัทต่างชาติ หรือแม้แต่การทำธุรกรรมออนไลน์ข้ามพรมแดน สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งความเสี่ยงว่าข้อมูลส่วนบุคคลของเราอาจไม่ได้รับการคุ้มครองเท่าเทียมกันในทุกประเทศ
เพื่อให้การส่งข้อมูลข้ามประเทศยังคงคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูล หลายประเทศจึงมีกฎหมายและกลไกเฉพาะในการควบคุมการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับกรอบการคุ้มครองข้อมูลข้ามพรมแดนของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก พร้อมเปรียบเทียบจุดเด่นของแต่ละระบบอย่างเข้าใจง่าย
🌍 ทำไมต้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนข้ามพรมแดน?
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง ในด้านหนึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถให้บริการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ การใช้บริการคลาวด์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ หรือการส่งข้อมูลไประหว่างกลุ่มบริษัทในต่างประเทศเพื่อการบริหารจัดการร่วมกัน
แต่อีกด้านหนึ่ง หากประเทศปลายทางไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอ ข้อมูลของเราอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ถูกขายต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือรั่วไหลจากระบบที่ไม่ปลอดภัยได้
ดังนั้น หลายประเทศจึงกำหนดให้มีการควบคุมหรือจำกัดการส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ เว้นแต่มีการรับรองว่า ประเทศหรือองค์กรผู้รับข้อมูลมีมาตรการคุ้มครองที่ “เพียงพอและเหมาะสม” เพื่อให้แน่ใจว่าสิทธิของเจ้าของข้อมูลยังคงได้รับการเคารพแม้จะส่งออกนอกเขตอำนาจ
📊 ตารางเปรียบเทียบกลไกการโอนข้อมูลของประเทศต่าง ๆ
ประเทศ/ภูมิภาค | กลไกที่ใช้ในการคุ้มครองข้อมูลข้ามพรมแดน | จุดเด่น/ข้อสังเกต |
---|---|---|
สหภาพยุโรป (EU) | Adequacy Decision, SCCs, BCRs | มีความเข้มงวด มีระบบรับรองประเทศปลายทาง (Adequacy Decisions) และถ้าประเทศปลายทางไม่มีมาตรฐานเพียงพอ ให้ใช้สัญญามาตรฐาน (Standard Contractual Clauses: SCC) |
สหรัฐอเมริกา | CBPR, Certification, Sectoral Laws | ไม่มีกฎหมายกลางด้านข้อมูลส่วนบุคคล ใช้ระบบการรับรอง (Certification) และข้อตกลงเป็นรายกรณี |
ญี่ปุ่น | Adequacy Decision (EU), CBPR | เป็นประเทศเอเชียประเทศแรกที่ได้รับรองจาก EU ว่ามีการคุ้มครองข้อมูลเพียงพอ (EU Adequacy Decision) |
เกาหลีใต้ | Adequacy (EU/UK), Certification, Contractual Obligations | ใช้หลายกลไกควบคู่กันไป ทั้งการผูกพันกันในสัญญา และการรับรอง |
สิงคโปร์ | CBPR, SCCs, Contractual Obligations | ใช้สัญญา และการรับรองในบางกรณี |
ไทย | PDPA มาตรา 28–29, BCR, Appropriate Safeguards | ยังไม่ประกาศรายชื่อประเทศที่ได้รับการรับรอง ต้องอาศัยมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม เช่น สัญญาที่เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายลำดับรอง และ ASEAN Model Contractual Clauses (MCC) เป็นต้น |
🔎 กลไกที่นิยมใช้: เข้าใจง่ายใน 4 รูปแบบหลัก
- Adequacy Decision
- เป็นกระบวนการที่หน่วยงานกำกับดูแลของประเทศหนึ่ง (เช่น คณะกรรมาธิการยุโรป) ประเมินว่าอีกประเทศหนึ่งมีระดับการคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอหรือไม่ หากผ่านเกณฑ์ ประเทศนั้นจะสามารถรับข้อมูลจากประเทศต้นทางได้โดยไม่ต้องมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ที่ได้รับการรับรองจาก EU
- Standard Contractual Clauses (SCCs)
- เป็นรูปแบบสัญญาที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแล เช่น คณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับข้อมูลในต่างประเทศสามารถทำข้อตกลงล่วงหน้าเพื่อรับประกันว่าข้อมูลที่โอนจะได้รับการคุ้มครองในระดับที่เทียบเท่า โดยไม่ต้องรอการรับรองจากรัฐ
- Binding Corporate Rules (BCRs)
- เป็นข้อบังคับภายในองค์กรหรือกลุ่มบริษัทข้ามชาติ ที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลให้ใช้สำหรับโอนข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เช่น บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่มีสำนักงานอยู่ทั่วโลก
- Cross-Border Privacy Rules (CBPR)
- เป็นระบบรับรองระดับภูมิภาคภายใต้กรอบความร่วมมือของ APEC (เอเปก) และในปัจจุบันได้ขยายการรับสมาชิกนอก APEC จนเป็นกรอบ Global CBPR ซึ่งประเทศที่เข้าร่วมจะมีตัวกลางที่เรียกว่า Accountability Agent ทำหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานขององค์กรที่ขอรับการรับรอง การรับรองนี้ช่วยให้การโอนข้อมูลข้ามพรมแดนสะดวกขึ้นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
🧭 แล้วประเทศไทยอยู่ตรงไหน?
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) ของไทย ได้กำหนดแนวทางเกี่ยวกับการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศไว้ใน มาตรา 28 และ 29 โดยมีเงื่อนไขที่คล้ายกับหลักสากล เช่น ประเทศปลายทางต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอ หรือต้องจัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม (Appropriate Safeguards)
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไทยยังไม่ประกาศรายชื่อประเทศที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ดังนั้นการโอนข้อมูลจึงต้องอาศัยกลไกทางเลือก เช่น การจัดทำนโยบาย BCR หรือการจัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม เช่น การใช้สัญญาตามข้อกำหนดในประกาศคณะกรรมการ เรื่อง หลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศตาม ม. 29 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ หรือข้อสัญญาต้นแบบของอาเซียน (ASEAN MCC) หรือสัญญามาตรฐาน (SCC) เป็นต้น
🌐 แนวโน้มระดับโลก: ไปสู่การสร้างความสอดคล้อง (Interoperability)
ปัจจุบัน หลายประเทศเริ่มหันมาทำความตกลงหรือสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันเพื่อให้การโอนข้อมูลระหว่างประเทศปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้น เช่น
- ใช้กลไกการเจรจาที่มากขึ้นในระดับประเทศ เช่น ความตกลง EU-US Data Privacy Framework เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งไปมาระหว่าง EU และ US
- การขยายระบบ CBPR จากแค่กลุ่ม APEC ไปสู่ Global CBPR Forum ซึ่งรวมถึงประเทศนอกเอเปก เช่น UK (ตอนนี้เข้าร่วมในฐานะ Associate member)
- การสนับสนุนให้ภาคธุรกิจใช้ Model Contractual Clauses ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เพื่อช่วยลดภาระด้านกฎหมายและการตรวจสอบ
แนวโน้มเหล่านี้สะท้อนว่าอนาคตของการคุ้มครองข้อมูลข้ามพรมแดนไม่ใช่การปิดกั้น แต่คือการสร้าง “ความเชื่อมโยงอย่างปลอดภัย” ที่เคารพสิทธิของเจ้าของข้อมูลและส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลในเวลาเดียวกัน
🎓 สนใจเรียนกฎหมายให้ทันโลก?
หากคุณสนใจเรื่องกฎหมาย เทคโนโลยี และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยของเราขอเชิญชวนให้คุณมาเรียนรู้และเตรียมความพร้อมสู่อนาคต
- PDPA, GDPR และกฎหมายระหว่างประเทศ
- การวิเคราะห์กรณีจริงด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัว
- ฝึกปฏิบัติกับหน่วยงานกำกับดูแลหรือบริษัทชั้นนำ
📞 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมหรือสมัครเรียนได้ที่:
ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่
โทร: 0953675508/02-697-6000
📥 สอบถามเพิ่มเติม
🌐 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: law.utcc.ac.th
📌 ID Line : 0953675508
📌 IG : law_utcc
📌Facebook: UtccLawSchool
มาเป็นครอบครัวหอการค้าด้วยกัน
📌สมัครเรียนง่ายได้ 3 ช่องทาง
– สมัครเรียนออนไลน์ Line : @utcccare (อย่าลืม @) https://lin.ee/x53Mxlf หรือ https://admissions.utcc.ac.th/ *สมัครแล้วอย่าลืมทักไลน์นะ
– สมัครด้วยตนเองที่ ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย อาคาร 24 (อาคารสัญลักษณ์) ชั้น 2 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น.
📌พิกัดการเดินทาง: https://goo.gl/maps/JEY6UvPL8Qh8NyyM9
สอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย
โทร 02-697-6969
บทความโดย: ผศ.ดร.ประพันธ์พงษ์ ขำอ่อน คณบดีคณะนิติศาสตร์
Email: [email protected]