Blog

นักกฎหมายยุค AI วิธีปรับตัวและสร้างคุณค่าเพื่อไม่ให้ถูกแทนที่

economics

นักกฎหมายยุค AI วิธีปรับตัวและสร้างคุณค่าเพื่อไม่ให้ถูกแทนที่

Student blog — 05/03/2025

นักกฎหมายยุค AI วิธีปรับตัวและสร้างคุณค่าเพื่อไม่ให้ถูกแทนที่

#เรียนนิติ #เรียนนิติศาสตร์ #นิติศาสตร์ #นิติหอการค้า #เรียนกฎหมาย #เป็นอัยการ #เป็นผู้พิพากษา #เป็นที่ปรึกษากฎหมาย #ทนายความ #Law #LawUTCC #ปริญญาตรี

1. บทนำ

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทในแทบทุกสายอาชีพ นักกฎหมายก็เป็นหนึ่งในกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบ แม้ว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้านกฎหมาย เช่น การวิเคราะห์สัญญา การค้นหาข้อมูลกฎหมาย และการคาดการณ์ผลของคดี แต่ก็ทำให้เกิดความกังวลว่านักกฎหมายจะถูกแทนที่หรือไม่ บทความนี้จะอธิบายว่า AI ทำงานอย่างไรในสายงานกฎหมาย และนักกฎหมายสามารถปรับตัวอย่างไรเพื่อให้ AI เป็นเครื่องมือช่วยเสริม ไม่ใช่คู่แข่งที่มาแย่งงาน

2. AI ทำงานอย่างไรในสายงานนักกฎหมาย

AI ในวงการกฎหมายทำงานโดยใช้เทคโนโลยีหลัก ๆ ดังต่อไปนี้:

  • การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing – NLP)
    AI สามารถอ่านและเข้าใจเอกสารทางกฎหมาย รวมถึงวิเคราะห์ข้อกฎหมายที่ซับซ้อนได้ ตัวอย่างเช่น โปรแกรม ROSS Intelligence ซึ่งใช้ AI วิเคราะห์คำพิพากษาและกฎหมายเพื่อช่วยทนายค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีได้อย่างรวดเร็ว
  • การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning – ML)
    AI สามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่และพยากรณ์แนวโน้มของคดีในอนาคต เช่น Lex Machina ที่ใช้ข้อมูลจากคำพิพากษาและพฤติกรรมของผู้พิพากษาเพื่อคาดการณ์ผลของคดีและช่วยวางกลยุทธ์ทางกฎหมาย
  • ระบบอัตโนมัติด้านเอกสาร (Document Automation)
    AI สามารถสร้างและตรวจสอบเอกสารทางกฎหมาย เช่น สัญญา ข้อกำหนด และนโยบายความเป็นส่วนตัวได้โดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น Kira Systems ใช้ AI วิเคราะห์และสกัดข้อมูลจากเอกสารทางกฎหมายเพื่อลดเวลาการทำงานของนักกฎหมาย
  • Chatbot ด้านกฎหมาย
    ปัจจุบันมีการพัฒนา AI Chatbot ที่ให้คำปรึกษาทางกฎหมายเบื้องต้น เช่น DoNotPay ซึ่งช่วยให้ประชาชนสามารถยื่นเรื่องร้องเรียน ตัดสินใจเกี่ยวกับค่าปรับ หรือจัดการข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาได้โดยไม่ต้องพบนักกฎหมาย
3. AI จะมาแทนที่นักกฎหมายหรือไม่?

แม้ว่า AI จะช่วยให้งานด้านกฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดที่ทำให้ AI ไม่สามารถแทนที่นักกฎหมายได้ทั้งหมด เช่น:

  • AI ขาดความสามารถในการให้คำแนะนำทางจริยธรรมและศีลธรรม ซึ่งเป็นหัวใจของวิชาชีพนักกฎหมาย
  • AI ไม่สามารถใช้วิจารณญาณในเชิงมนุษย์ได้ เช่น การประเมินอารมณ์และความรู้สึกของคู่ความ
  • AI ยังต้องพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ และอาจไม่มีความสามารถในการพิจารณาสถานการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
  • AI ไม่สามารถว่าความในศาลได้ ทนายความยังจำเป็นต้องเป็นตัวแทนลูกความในการดำเนินคดี

ดังนั้น AI ควรถูกมองว่าเป็น เครื่องมือช่วยเสริม มากกว่าคู่แข่งที่จะแย่งงานของนักกฎหมาย

4. นักกฎหมายควรปรับตัวอย่างไร?

หากนักกฎหมายต้องการอยู่รอดในยุคที่ AI มีบทบาทมากขึ้น ควรพัฒนาทักษะต่อไปนี้:

  • เสริมสร้างความเชี่ยวชาญที่ AI ทำไม่ได้
    • ฝึกทักษะการวิเคราะห์เชิงลึก (Critical Thinking) และการใช้วิจารณญาณทางกฎหมายที่ AI ไม่สามารถทำได้
    • เข้าใจบริบททางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
    • เสริมสร้างทักษะด้านการเจรจาต่อรองและการว่าความในศาล
  • ใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยงาน
    • เรียนรู้การใช้ซอฟต์แวร์ AI ด้านกฎหมาย เช่น ROSS, Kira Systems และ Lex Machina เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
    • ใช้ AI เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและเตรียมคดีให้รวดเร็วขึ้น
  • พัฒนา Soft Skills
    • ทักษะการสื่อสารเป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถทำได้ดีเท่ามนุษย์ นักกฎหมายที่สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพจะมีข้อได้เปรียบ
    • การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Client Relationship Management) เป็นสิ่งสำคัญที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้
  • เพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและกฎหมายไซเบอร์
    • ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยี เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA/GDPR)
    • เข้าใจแนวโน้มทางกฎหมายเกี่ยวกับ AI และ Blockchain เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
5. ตัวอย่างการปรับตัวของนักกฎหมายในยุค AI
ตัวอย่างที่ 1: นักกฎหมายที่ใช้ AI วิเคราะห์คดี

ทนายความด้านกฎหมายแรงงานใช้ AI วิเคราะห์แนวโน้มของคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม โดยใช้ Lex Machina เพื่อประเมินโอกาสชนะคดีและวางกลยุทธ์การเจรจากับนายจ้าง

ตัวอย่างที่ 2: ที่ปรึกษากฎหมายที่ใช้ AI ตรวจสอบสัญญา

นักกฎหมายของบริษัทแห่งหนึ่งใช้ Kira Systems เพื่อตรวจสอบสัญญาจำนวนมากในเวลาอันสั้น ทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์แทน

ตัวอย่างที่ 3: นักกฎหมายที่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายไซเบอร์

นักกฎหมายที่เชี่ยวชาญเรื่อง PDPA และ GDPR ช่วยบริษัทปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยใช้ AI วิเคราะห์ความเสี่ยงด้านข้อมูลและกำหนดแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสม

6. บทสรุป

AI ไม่ใช่ศัตรูของนักกฎหมาย แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นักกฎหมายที่สามารถปรับตัว ใช้ AI อย่างชาญฉลาด และพัฒนา Soft Skills จะสามารถอยู่รอดและเติบโตในยุคดิจิทัลได้ การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและกฎหมายใหม่ ๆ จะช่วยให้นักกฎหมายมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ AI มากกว่าถูก AI มาแทนที่

“AI จะมาแย่งงานคุณ ก็ต่อเมื่อคุณไม่ยอมพัฒนาไปพร้อมกับมัน”

ถ้าอยากเรียนต่อนิติศาสตร์ สามารถเรียนต่อ ป.ตรี ได้ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

สำหรับผู้จบการศึกษา ม.6 กศน. ปวช. ปวส. หรือเทียบโอน
ใช้กองทุน กยศ. หรือผ่อนชำระค่าเทอมได้
📌 ข้อดี
🖌️ จบแล้วได้ skill Certificate เฉพาะทาง
🖌️ เรียนจบภายใน 3 ปีครึ่ง
🖌️ มีสหกิจศึกษา พร้อมฝึกปฏิบัติงาน ก่อนทำงานจริง
🖌️ เรียนต่อเนติบัณฑิตสภาได้
🖌️ สอบตั๋วทนายความได้
🖌️ เรียนวิชาเฉพาะด้านที่ทันสมัยกับตัวจริง Guru
🖌️ ได้รับการรับรองจาก ก.พ. และ อ.ว.

📌 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ระดับบัณฑิตศึกษา
โทร: 0953675508/02-697-6000

📥 สอบถามเพิ่มเติม หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
📌 ID Line : 0953675508
📌 IG : law_utcc
📌 Facebook: UtccLawSchool

มาเป็นครอบครัวหอการค้าด้วยกัน
📌 สมัครเรียนง่ายได้ 2 ช่องทาง
– สมัครเรียนออนไลน์ Line : @utcccare (อย่าลืม @) https://lin.ee/x53Mxlf หรือ https://admissions.utcc.ac.th/ *สมัครแล้วอย่าลืมทักไลน์นะ
– สมัครด้วยตนเองที่ ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย อาคาร 24 (อาคารสัญลักษณ์) ชั้น 2 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น.
📌 พิกัดการเดินทาง: https://goo.gl/maps/JEY6UvPL8Qh8NyyM9

สอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย
โทร 02-697-6969

นักกฎหมายยุค AI วิธีปรับตัวและสร้างคุณค่าเพื่อไม่ให้ถูกแทนที่, AI กับอาชีพนักกฎหมาย, การใช้ AI ในงานกฎหมาย, ปรับตัวสู่กฎหมายดิจิทัล, นักกฎหมายยุค AI, ปรับตัวสู่กฎหมายดิจิทัล