Blog

สิงคโปร์จัดการ AI อย่างไร ไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

economics

สิงคโปร์จัดการ AI อย่างไร ไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

Student blog — 06/08/2025

สิงคโปร์จัดการ AI อย่างไร ไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ไขข้อข้องใจ ประเทศสิงคโปร์กำกับดูแลการใช้ AI โดยไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร?

#คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย #กฎหมาย AI #เรียนกฎหมาย AI ที่ไหนดี #กฎหมายยุคดิจิทัล #AI กับความรับผิดทางกฎหมาย #นิติศาสตร์ยุคใหม่ #นักกฎหมายเทคโนโลยี #เรียนกฎหมายธุรกิจดิจิทัล

ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น คำถามสำคัญคือ “แล้วข้อมูลส่วนบุคคลของเราล่ะ ปลอดภัยไหม?” วันนี้ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะพาน้อง ๆ มาทำความรู้จักว่า ประเทศสิงคโปร์ใช้วิธีไหนในการควบคุมการใช้ AI ไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมตัวอย่างจริง และหลักการที่เข้าใจง่าย

🇸🇬 สิงคโปร์มีแนวทางการกำกับดูแล AI อย่างไร?

ประเทศสิงคโปร์วางแนวทางกำกับดูแล AI โดยอิงจากหลักการ “สมดุลระหว่างนวัตกรรมและความปลอดภัย” ผ่านกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลหลายชุด เช่น:
  • PDPA (Personal Data Protection Act): กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • Model AI Governance Framework: แนวทางกำกับดูแล AI ที่ส่งเสริมความโปร่งใส ยุติธรรม และความรับผิดชอบ
  • AI Verify / Project Moonshot: เครื่องมือประเมินความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ AI

🧠 ทำไมต้องกำกับดูแล AI?

AI อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างลึกซึ้ง เช่น:
  • จดจำใบหน้า
  • วิเคราะห์พฤติกรรม
  • คาดการณ์การตัดสินใจ
หากไม่มีการควบคุม อาจนำไปสู่:
  • 📉 การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
  • 🧩 การเลือกปฏิบัติจากอัลกอริธึมที่ลำเอียง
  • 🔓 ข้อมูลรั่วไหล

📋 แนวทางสำคัญของสิงคโปร์ในการใช้ AI โดยไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

แนวทาง รายละเอียด
✅ การขอความยินยอม ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบว่าข้อมูลจะถูกนำไปใช้ใน AI เพื่ออะไร และต้องให้ทางเลือกในการยินยอมหรือปฏิเสธ
🔍 แจ้งวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน ต้องมีการอธิบายว่า AI จะนำข้อมูลไปใช้ทำอะไร เช่น วิเคราะห์ความชอบ แนะนำสินค้า
🧩 การใช้ข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน ใช้เทคนิค pseudonymization หรือ anonymization เพื่อไม่ให้ข้อมูลสามารถระบุตัวบุคคลได้
🔐 ความปลอดภัยของข้อมูล กำหนดให้ใช้ระบบเข้ารหัส การควบคุมสิทธิ์ในการเข้าถึง และมีนโยบายการลบข้อมูลเมื่อหมดอายุ
📄 การตรวจสอบความเสี่ยง มีการทำ Data Protection Impact Assessment (DPIA) และใช้ AI Verify ในการประเมิน AI ว่าปลอดภัย โปร่งใสหรือไม่
📜 กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบ มีการตั้ง คณะกรรมการดูแลข้อมูล และ DPO (Data Protection Officer) เพื่อควบคุมทั้งกระบวนการ
🤖 ควบคุมผู้พัฒนา AI ผู้ให้บริการ AI ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA มีการเก็บข้อมูลย้อนกลับ (data lineage) และทำงานร่วมกับองค์กรอย่างโปร่งใส

📚 ตัวอย่างจากชีวิตจริง: กล้องจดจำใบหน้าในห้างสรรพสินค้า

ขั้นตอน แนวทางการคุ้มครอง
📸 การเก็บภาพ แจ้งลูกค้าผ่านป้าย หรือ pop-up ว่ามีการเก็บภาพเพื่อความปลอดภัย
🔐 การจัดเก็บ ใช้ระบบเข้ารหัส เก็บในฐานข้อมูลที่มีการควบคุมการเข้าถึง
🔎 การใช้งาน AI วิเคราะห์ใบหน้าเทียบกับฐานข้อมูลเฉพาะกิจ (watchlist)
🧽 การลบข้อมูล ลบข้อมูลเมื่อหมดอายุ หรือตามนโยบาย retention ที่ชัดเจน
📤 การแชร์ข้อมูล หากแชร์กับตำรวจ ต้องได้รับการยินยอม หรือใช้ตามข้อยกเว้นตามกฎหมายเท่านั้น

💡 หลักการ 6 ข้อของ “AI ที่รับผิดชอบ” ตามกรอบสิงคโปร์

  • ✅ Accountability: ต้องมีผู้รับผิดชอบชัดเจน
  • 🔍 Explainability: ต้องสามารถอธิบายได้ว่า AI คิดอย่างไร
  • 📢 Transparency: ต้องเปิดเผยข้อมูลการทำงานของ AI
  • 🔐 Privacy & Security: ต้องคุ้มครองข้อมูลตาม PDPA
  • ⚖️ Fairness & Inclusiveness: ห้ามเลือกปฏิบัติ
  • 💙 Human-centered: ต้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

🧭 สิงคโปร์ทำให้ “AI” อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างไร?

กลไกสำคัญ บทบาท
🧑‍💼 DPO Competency Framework กำหนดแนวทางอบรมเจ้าหน้าที่ด้านข้อมูลในองค์กร
📑 AI Governance Toolkit เครื่องมือช่วยประเมินความเสี่ยงและกำกับดูแล AI
🧪 AI Verify ระบบทดสอบ AI ว่าปลอดภัย เป็นธรรม โปร่งใสหรือไม่
🏛 AI Governance Committees คณะกรรมการควบคุมดูแล AI ทั้งภาครัฐและเอกชน

🎓 สรุปแบบเข้าใจง่าย

สิงคโปร์ไม่ได้ “ห้าม” การใช้ AI แต่กำหนด “กรอบ” ให้ชัดว่า…

  • ✅ ต้องเคารพสิทธิของเจ้าของข้อมูล
  • ✅ ต้องแจ้งและขอความยินยอมอย่างเหมาะสม
  • ✅ ต้องมีระบบตรวจสอบความยุติธรรมของ AI
  • ✅ ต้องลบข้อมูลเมื่อหมดวัตถุประสงค์
  • ✅ ต้องมีผู้รับผิดชอบเสมอ

✨ สนใจเรื่อง AI และกฎหมาย? มาเรียนกับเรา!

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เปิดโลกการเรียนรู้เรื่อง “AI Governance”, “PDPA”, และ “สิทธิเสรีภาพในยุคดิจิทัล”
อยากเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจ AI อย่างมีจริยธรรมและกฎหมาย มาร่วมเรียนรู้กับเรา!

สำหรับผู้จบการศึกษา ม.6 กศน. ปวช. ปวส. หรือเทียบโอน ใช้กองทุน กยศ. หรือผ่อนชำระค่าเทอมได้

📌ข้อดี

  • 🖌️ จบแล้วได้ skill Certificate เฉพาะทาง
  • 🖌️ เรียนจบภายใน 3 ปีครึ่ง
  • 🖌️ มีสหกิจศึกษา พร้อมฝึกปฏิบัติงาน ก่อนทำงานจริง
  • 🖌️ เรียนต่อเนติบัณฑิตยสภาได้
  • 🖌️ สอบตั๋วทนายความได้
  • 🖌️ เรียนวิชาเฉพาะด้านที่ทันสมัยกับตัวจริง Guru
  • 🖌️ ได้รับการรับรองจาก ก.พ. และ อ.ว.

📌สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ระดับบัณฑิตศึกษา

  • โทร: 0953675508/02-697-6000
  • 📥 สอบถามเพิ่มเติม หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
  • 📌 ID Line : 0953675508
  • 📌 IG : law_utcc
  • 📌Facebook: UtccLawSchool

มาเป็นครอบครัวหอการค้าด้วยกัน

📌สมัครเรียนง่ายได้ 3 ช่องทาง

  • สมัครเรียนออนไลน์ Line : @utcccare (อย่าลืม @) https://lin.ee/x53Mxlf
  • หรือ https://admissions.utcc.ac.th/ *สมัครแล้วอย่าลืมทักไลน์นะ
  • สมัครด้วยตนเองที่ ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย อาคาร 24 (อาคารสัญลักษณ์) ชั้น 2
    ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. 📌พิกัดการเดินทาง: https://goo.gl/maps/JEY6UvPL8Qh8NyyM9

สอบถามเพิ่มเติม ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย โทร 02-697-6969

แชร์บทความนี้
โปรโมชั่นแนะนํา

หลักสูตร