เคล็ดลับการใช้ AI ในการสรุปเลกเชอร์ (Lecture) เพื่อประโยชน์ในการเรียนกฎหมาย
Student blog — 10/05/2025

-
บทนำ
ในโลกยุคดิจิทัลปัจจุบัน การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนอีกต่อไป เทคโนโลยีอย่าง AI (ปัญญาประดิษฐ์) ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการช่วยให้นักเรียนและนักศึกษาทำความเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “วิชากฎหมาย” ที่มีเนื้อหาหนัก เน้นความเข้าใจในหลักการ ข้อกฎหมาย และคำพิพากษา การใช้ AI เพื่อ “สรุปเลกเชอร์” จึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจได้เร็วขึ้น
บทความนี้จะพาไปดู วิธีใช้ AI สรุปเลกเชอร์กฎหมายอย่างเป็นขั้นตอน พร้อมเทคนิคเสริมที่ทำให้การเรียนกฎหมายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ! -
ทำไมการสรุปเลกเชอร์ถึงจำเป็นในวิชากฎหมาย?
- วิชากฎหมายเน้น “ความเข้าใจเชิงระบบ” และ “การจดจำหลักการ” เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 เกี่ยวกับการละเมิด, มาตรา 150 และ 151 ว่าด้วยการเป็นโมฆะหรือไม่เป็นโมฆะของนิติกรรม ฯลฯ
- การเรียนกฎหมายไม่ใช่แค่การจำตัวบท แต่ต้อง เข้าใจเหตุผลทางกฎหมาย (legal reasoning)
- บางครั้งการเรียนในห้องอาจเร็ว ทำให้ตามไม่ทัน หรือข้อมูลไม่ครบ AI จึงสามารถช่วยจัดระเบียบเนื้อหาได้อย่างเป็นระบบ และย่นเวลาในการทบทวน
-
Step-by-Step การใช้ AI ช่วยสรุปเลกเชอร์กฎหมาย
-
STEP 1: เตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนให้ AI ช่วย
สิ่งที่ต้องมี:
- ✅ ไฟล์ข้อความจากการจดเลกเชอร์ (Word, PDF, หรือ text ธรรมดา)
- ✅ ไฟล์เสียงจากการอัดเสียงในห้องเรียน (เช่น ไฟล์ .mp3 หรือ .wav)
- ✅ สไลด์จากอาจารย์ (PowerPoint หรือ PDF)
หากเป็นไฟล์เสียง:
- ใช้โปรแกรมแปลงเสียงเป็นข้อความ เช่น
- Otter.ai: สร้าง transcript ภาษาไทยได้ดี
- Whisper AI: ระบบของ OpenAI ใช้แปลงไฟล์เสียงเป็นข้อความ
- Google Recorder (บนมือถือ Android): บันทึกและถอดข้อความได้อัตโนมัติ
เคล็ดลับ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์ไม่มีเสียงรบกวน และพูดชัดเจน เพื่อให้ AI ถอดความได้แม่นยำ
-
STEP 2: ใช้ AI สรุปเนื้อหาให้ง่ายขึ้น
AI ที่ใช้สรุปได้ดี:
- 🔹 ChatGPT (ใช้คำสั่งภาษาไทยได้)
- 🔹 Notion AI (รวมกับโน้ตส่วนตัว)
- 🔹 Microsoft Copilot หรือ Google Gemini
คำสั่ง (prompt) ตัวอย่าง:
“ช่วยสรุปข้อความต่อไปนี้ให้เข้าใจง่ายในรูปแบบ bullet points สำหรับนักศึกษากฎหมายปี 1” หรือ“สรุปเลกเชอร์นี้เป็นสาระสำคัญ พร้อมยกตัวอย่างประกอบถ้ามี”
สิ่งที่ AI จะช่วยทำให้:
- แยกหัวข้อย่อย เช่น “หลักการของการละเมิด”, “องค์ประกอบความรับผิด”
- สรุปให้สั้น กระชับ และเน้นคำสำคัญ เช่น “เจตนา”, “ความเสียหาย”, “เหตุยกเว้นความรับผิด”
- ลดความซ้ำซ้อนในเนื้อหา และแปลศัพท์ยากให้เข้าใจง่ายขึ้น
-
STEP 3: ตรวจสอบความถูกต้องของสรุป AI
แม้ AI จะเก่ง แต่ก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย AI อาจตีความคลาดเคลื่อนหรือข้ามรายละเอียดสำคัญไปได้วิธีตรวจสอบ:
- นำสรุปที่ได้ไปเทียบกับ หนังสือเรียน, สไลด์อาจารย์, หรือ ตัวบทกฎหมายจริง
- หากมีเวลา ให้ถามอาจารย์หรือเพื่อนเพื่อยืนยันว่าเข้าใจถูกต้อง
เคล็ดลับ: ให้ AI “อธิบายซ้ำอีกครั้ง” แบบละเอียดขึ้นหรือเปรียบเทียบกับกฎหมายต่างประเทศได้ เช่น
“อธิบาย มาตรา 420 โดยเปรียบเทียบกับหลัก tort law ของอังกฤษ” -
STEP 4: ใช้ AI เพื่อเรียนรู้เชิงลึก (ไม่ใช่แค่สรุป)
AI ไม่ใช่แค่ “เครื่องมือสรุป” แต่ยังช่วยให้คุณ เข้าใจเนื้อหาอย่างมีเหตุผลสิ่งที่ทำได้:
- ขอให้ AI ยก กรณีศึกษา (case studies) เช่น
“ตัวอย่างคดีที่เกี่ยวกับการละเมิดในชีวิตจริง” - ขอให้ AI แปล คำศัพท์ยากๆ เช่น
“คำว่า ‘โมฆะกรรม’ กับ ‘โมฆียกรรม’ แตกต่างกันอย่างไร” - ให้ AI อธิบายขั้นตอนของกระบวนการ เช่น
“ลำดับการพิจารณาคดีแพ่งมีอะไรบ้าง”
ข้อดี: เหมือนได้ “ติวเตอร์ส่วนตัว” ที่ถามตอบได้ทันที และไม่มีอารมณ์รำคาญ 😊
- ขอให้ AI ยก กรณีศึกษา (case studies) เช่น
-
STEP 5: ใช้ AI เตรียมตัวก่อนสอบ
- ขอให้ AI สร้าง แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย เช่น
“สร้างคำถามปรนัย 5 ข้อ จากเนื้อหาการละเมิด พร้อมเฉลยและคำอธิบาย” - หรือสั่งให้ AI สรุปเนื้อหาเป็น Mind Map หรือ flashcards เพื่อท่องจำง่ายขึ้น
- ถ้าคุณมีเนื้อหาหลายบท ให้ AI “สรุปเปรียบเทียบ” เช่น
“เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างละเมิดกับผิดสัญญา”
ผลลัพธ์: การเตรียมตัวสอบจะเป็นระบบมากขึ้น และช่วยให้เข้าใจโครงสร้างเนื้อหากฎหมายอย่างเป็นลำดับ
- ขอให้ AI สร้าง แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย เช่น
-
STEP 1: เตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนให้ AI ช่วย
-
สรุป: ใช้ AI อย่างไรให้เรียนกฎหมายได้ดีขึ้น?
สิ่งที่ AI ช่วยได้ ประโยชน์ที่ได้รับ สรุปเลกเชอร์ เข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้น ถอดเสียงเป็นข้อความ ทบทวนได้หลังเลิกเรียน ยกตัวอย่างและอธิบายศัพท์ ลดการท่องจำแบบไม่เข้าใจ สร้างแบบฝึกหัด เตรียมสอบได้อย่างมั่นใจ
-
⚠️ ข้อควรระวังในการใช้ AI
- อย่าเชื่อ AI 100% ตรวจสอบกับแหล่งข้อมูลจริงเสมอ
- ระวังการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล หรืออัดเสียงผู้อื่นโดยไม่ขออนุญาต
- AI เป็น “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “ผู้เรียนแทน” ดังนั้นควรใช้เพื่อเสริม ไม่ใช่พึ่งพาเกินไป
-
📌 ทิ้งท้าย
การเรียนกฎหมายอาจดูยากในตอนแรก แต่ถ้าเรามีเครื่องมือดีๆ อย่าง AI มาช่วยสรุป ทบทวน และอธิบาย การเรียนจะกลายเป็นเรื่องที่ “สนุก” และ “เข้าใจง่ายขึ้น” สำหรับทั้งนักเรียน ม.ปลาย ที่อยากเตรียมตัวล่วงหน้า และนักศึกษานิติศาสตร์ที่อยากเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
-
💬 “ใช้ AI อย่างชาญฉลาด แล้วคุณจะเข้าใจกฎหมายได้ลึกกว่าที่เคย”
หากต้องการทดลองใช้ AI ในการเรียนกฎหมาย มหาวิทยาลัยของเรากำลังเตรียมจัด เวิร์กช็อปการใช้ AI สำหรับนักศึกษานิติศาสตร์ เร็ว ๆ นี้ ติดตามข่าวสารผ่านเว็บไซต์และเพจคณะได้เลย!
ถ้าอยากเรียนต่อนิติศาสตร์ สามารถเรียนต่อ ป.ตรี ได้ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
สำหรับผู้จบการศึกษา ม.6 กศน. ปวช. ปวส. หรือเทียบโอน ใช้กองทุน กยศ. หรือผ่อนชำระค่าเทอมได้
📌ข้อดี
- 🖌️ จบแล้วได้ skill Certificate เฉพาะทาง
- 🖌️ เรียนจบภายใน 3 ปีครึ่ง
- 🖌️ มีสหกิจศึกษา พร้อมฝึกปฏิบัติงาน ก่อนทำงานจริง
- 🖌️ เรียนต่อเนติบัณฑิตยสภาได้
- 🖌️ สอบตั๋วทนายความได้
- 🖌️ เรียนวิชาเฉพาะด้านที่ทันสมัยกับตัวจริง Guru
- 🖌️ ได้รับการรับรองจาก ก.พ. และ อ.ว.
📌สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ระดับบัณฑิตศึกษา
- โทร: 0953675508/02-697-6000
- 📥 สอบถามเพิ่มเติม หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
- 📌 ID Line : 0953675508
- 📌 IG : law_utcc
- 📌Facebook: UtccLawSchool
มาเป็นครอบครัวหอการค้าด้วยกัน
📌สมัครเรียนง่ายได้ 3 ช่องทาง
- สมัครเรียนออนไลน์ Line : @utcccare (อย่าลืม @) https://lin.ee/x53Mxlf
- หรือ https://admissions.utcc.ac.th/ *สมัครแล้วอย่าลืมทักไลน์นะ
- สมัครด้วยตนเองที่ ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย อาคาร 24 (อาคารสัญลักษณ์) ชั้น 2
ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. 📌พิกัดการเดินทาง: https://goo.gl/maps/JEY6UvPL8Qh8NyyM9
สอบถามเพิ่มเติม ศูนย์รับสมัครนักศึกษาใหม่ ม.หอการค้าไทย โทร 02-697-6969
#เรียนนิติ #นักกฎหมายAI #นิติหอการค้า #เรียนกฎหมาย #เป็นอัยการ #เป็นผู้พิพากษา #เป็นที่ปรึกษากฎหมาย #เป็นทนายความ #Law #LawUTCC #ปริญญาตรี
